โคตรทน RAZER เปิดตัวเมาส์ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยด์กร่ง

Razer ประกาศเปิดตัว Razer Viper Mini Signature Edition เมาส์เล่นเกมไร้สายสุดแกร่ง ผลิตด้วยแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทาน พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเพื่อการเล่นเกมที่ดีที่สุดของ Razer Viper Mini Signature Edition ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์ที่กล้าพอจะทุ่มทุกอย่างเพื่อชัยชนะ ด้วยประสิทธิภาพที่อัดแน่นเกินตัว แต่มีน้ำหนักเบาจนเหลือเชื่อ มาพร้อมอุปกรณ์เสริมเพื่อให้เกมเมอร์ได้สัมผัสกับประสบการณ์การเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบ

 

Razer Hyper-Lightweight เพียง 49 กรัม

Razer “เราต้องการที่จะสร้างเมาส์สำหรับเล่นเกมที่มีน้ำหนักเบาที่สุด แต่กลับดีที่สุดออกมาให้ได้” Barrie Ooi หัวหน้าฝ่ายเกม PC ของ Razer กล่าว “เราต้องคิดล้ำหน้ากว่าการออกแบบปกติของเรามาก โดยพิจารณาละเอียดถึงการเลือกใช้วัสดุและการออกแบบทางอุตสาหกรรมแบบที่เป็นไปได้ต่าง ๆ เพื่อสร้างแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มีความทนทานเป็นพิเศษใช้ในโครงทั้งภายนอกและภายใน เกิดเป็นรูปทรง Viper Mini ที่แฟน ๆ ชื่นชอบ ด้วยเหตุนี้ Viper Mini Signature Edition จึงเบาเพียง 49 กรัมแบบดุดันไม่เกรงใจใคร”

การใช้แมกนีเซียมอัลลอยด์และเทคนิคการฉีดขึ้นรูปทำให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมากโดยไม่ลดทอนความทนทานของตัวแมกนีเซียมอัลลอยด์เลย ในขณะที่ดีไซน์ยอดนิยมอย่าง Viper Mini ยังช่วยให้จับได้ถนัดมือ องค์ประกอบที่ลงตัวเหล่านี้ช่วยให้ Viper Mini Signature Edition มีน้ำหนักเบาเพียง 49 กรัม ในขณะที่ยังคงให้ประสิทธิภาพระดับโลก

แมกนีเซียมอัลลอยด์ Exoskeleton Viper Mini Signature Edition

สร้างขึ้นจากโลหะผสมแมกนีเซียมคุณภาพสูง Viper Mini Signature Edition ทำลายความเชื่อที่ว่าน้ำหนักเบาจะไม่แข็งแรง ซึ่งใช้ไม่ได้กับ Viper Mini Signature Edition ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบสุดล้ำที่ซับซ้อน สร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคการฉีดขึ้นรูป ทำให้ได้โครงสร้างที่แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ

“Viper Mini Signature Edition เป็นตัวแทนของการออกแบบและวิศวกรรมที่มีความทะเยอทะยานมากที่สุดเท่าที่เราเคยทำมา” Charlie Bolton หัวหน้าฝ่ายออกแบบอุตสาหกรรมของ Razer

กล่าว “เราต้องการผลักดันมากกว่าการดีไซน์แบบรังผึ้งแบบดั้งเดิม และสิ่งนี้ต้องการวัสดุที่มีอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักที่โดดเด่น หลังจากเปรียบเทียบพลาสติก คาร์บอนไฟเบอร์ และแม้แต่ไททาเนียม ในที่สุดเราก็เลือกแมกนีเซียมอัลลอยด์

 

ช้มาได้ประมาณ 1 ปี ประสบปัญญา เมาส์ชอบดับเบิ้ลคลิ๊กเอง คือเราคลิ๊กครั้งเดียวแต่มันชอบเบิ้ล คลิ๊กค้างเพื่อย้าย-ย่อ-ขยาย หน้าต่างโปรแกรมต่างๆก็ทำได้ยากมาก คลิ๊กค้างไม่ได้หรือทำได้ยาก ….สามารถแก้ปัญหาได้โดยการถอดเปลือกเมาส์ด้านบนออก แล้วใส่เข้าไปใหม่เฉยๆก็หาย แต่จะใช้งานได้ซักพัก(ไม่ทันข้ามวัน) ก็จะเป็นอีก เช็คแล้วไม่ได้มีคราบอุดตันอะไร ซอฟแวร์วินโดว์ไม่ได้มีปัญหาอะไร …เหมือนเป็นอาการเมาส์เสื่อม หมดอายุการใช้งานเฉยๆ

เลยสงสัยว่ามันปรกติไหมครับ ว่าเมาส์ราคาเป็นพันใช้งานได้ไม่ถึงปีพัง ตัวที่ผมใช้ก่อนหน้านี้ก็เหมือนกันของ Razer นี่แหละ แต่จำรุ่นไม่ได้ราคาพันกว่าบาท ใช้ไม่ถึงปีเหมือนกัน ก่อนหน้านั้นใช้เมาส์ตลาด 3 ร้อยบาท จำได้ว่าใช้งานได้นานกว่านี้มาก(ใช้งานหนักกว่าตอนนี้อีก)

เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มีใครเมาส์ของ Razer ไหมครับ รบกวนแชร์ประสบการ์ณหน่อย

แล้วเมาส์ดีๆหน่อยของยี่ห้ออื่นจะอายุสั้นเหมือนกันไหม๊ครับ ? คือผมชอบเล่นเกมส์ก็อยากได้เมาส์ที่มีประสิทธิภาพนิดนึง ซึ่งRazerก็ใช้ดีอยู่นะ มีโปรแกรม Macro ของตัวเอง …แต่พังเร็วจังครับ

แต่ละชิ้นส่วนของ Viper Mini Signature Edition ถูกสร้างขึ้นด้วยโครงภายนอกที่ขึ้นรูปด้วยการฉีด จากนั้นจึงนำไปกลึง CNC ขัดเงา และเปลือกโครงภายนอกจะผ่านกระบวนการทู่เพื่อลดความไวต่อการกัดกร่อน หลังจากนั้นจึงทาสีและประกอบ ในแต่ละขั้นตอน ทุกชิ้นส่วนจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อรักษาคุณภาพสูงสุดของผลิตภัณฑ์

ประสิทธิภาพระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

Viper Mini Signature Edition เป็นเมาส์ระดับไฮเอนด์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล่าสุด ด้วยเซ็นเซอร์ออปติคัล Razer™ Focus Pro 30K, Razer™ Optical Mouse Switches Gen-3 และ HyperPolling Wireless พร้อมอัตราการส่งข้อมูลไร้สายถึง 4000 Hz ทำให้เป็นเมาส์เล่นเกมไร้สายที่เร็วและเสถียรที่สุด นอกจากนี้ยังชาร์จไฟได้เร็ว ด้วยอัตราการชาร์จ 2C ที่มากกว่าเมาส์ไร้สายทั่วไปถึงสี่เท่า ทำให้สามารถชาร์จจนเต็มด้วยเวลาไม่ถึง 90 นาที

Viper Mini Signature Edition มาพร้อมกับ Razer HyperPolling Wireless Dongle ที่จับคู่ไว้ล่วงหน้า, ชุดแผ่นรองเมาส์ Corning® Gorilla® Glass 3, ผ้าทำความสะอาดไมโครไฟเบอร์, ชุดเทปจับเมาส์ Razer 2 ชุด, แผ่นแอลกอฮอล์ 2 แผ่น และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จาก Razer พร้อมการรับประกันเพิ่มเติมอีก 3 ปี

Razer Viper Mini Signature Edition วางจำหน่ายเฉพาะช่องทางพิเศษบนเว็บ Razer.com ราคา 279.99 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9,600 บาท)

บทความที่เกี่ยวข้อง